Gallery รูปภาพ ภูฝอยลม

การเดินทางสู่ภูฝอยลม

    การเดินทางสู่ภูฝอยลม หากเดินทางมาตามเส้นทางขอนแก่น-อุดรธานี เมื่อเลยอำเภอโนนสะอาดมาแล้วจะพบทางแยกซ้ายที่บ้านห้วยเกิ้งไปภูฝอยลม รถยนต์สามารถขึ้นถึงบนภูได้โดยสะดวก หากเดินทางจากตัวเมืองอุดรธานีขับรถตามทางหลวงหมายเลข 210 มุ่งหน้าหนองบัวลำภูจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอหนองแสง

วัดภูทองเทพนิมิต

    วัดภูทองเทพนิมิต ขับรถตามเส้นทางสู่ภูฝอยลม เข้าหมู่บ้านผ่านบ้านโนนเชียงค้ำจะเห็นพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา นามว่าพระพุทธชัยมงคลมหาชนอภิปูชนีย์ (หลวงพ่อทันใจ) กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างฐานซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารแปดเหลี่ยม แต่องค์พระพุทธรูปสร้างเสร็จแล้ว ด้วยขนาดขององค์พระและตำแหน่งที่ประดิษฐานบนยอดเขาทำให้มองเห็นได้แต่ไกล

โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ

    โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ที่นำภาพป้ายนี้มาลงไว้เพราะเส้นทางจากหมู่บ้านสู่ภูฝอยลมมีทางแยกมากมายหลายแห่งและบางแห่งไม่มีป้ายบอกทาง จึงเดาเอาว่าเป็นทางเดียวกันกับโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ

เส้นทางขึ้นภูฝอยลม
    เส้นทางขึ้นภูฝอยลม เป็นทางลาดยางไม่ลำบากมากแต่มีทางโค้งลาดชันหลายแห่งตามปกติของการเดินทางขึ้นยอดเขา วันที่มีฝนตกถนนจะลื่นให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง เมื่อผ่านเส้นทางลาดชันมาได้สักระยะหนึ่งจะมีด่านตรวจสำหรับลงชื่อเข้าชม ด้านหน้าของด่านตรวจแห่งนี้มีสวนไม้ดอกสวยๆ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ระบบค่าธรรมเนียมของภูฝอยลมไม่ได้กำหนดตายตัว เจ้าหน้าที่จะบอกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมภูฝอยลม จะบริจาคเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพรรณไม้ และป่าที่อุดมสมบูรณ์ ผืนนี้ได้ตามต้องการ

    ผ่านด่านตรวจเข้ามาจะพบกับพื้นที่สวนป่าโดยแบ่งเป็นเขต แต่ละเขตปลูกต้นไม้ต่างกันเพื่อประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ ได้แก่ กลุ่มพืชสมุนไพร กลุ่มพืชโภขนาการ กลุ่มไม้เศรษฐกิจ กลุ่มพืชมีพิษ พรรณไม้พุทธประวัติ พรรณไม้ในวรรณคดี พรรณไม้พระราชทานประจำจังหวัด กลุ่มไม้มงคล กลุ่มไม้ดอกยืนต้น กลุ่มไม้มงคล 9 ชนิด กลุ่มวงศ์ปาล์ม พรรณไม้เฉลิมพระเกียรติ
    สวนป่าแต่ละกลุ่มเหล่านี้ บางกลุ่มอยู่ติดกับถนน มองเห็นป้ายชื่อบอกทางเข้าไปเดินชมและศึกษาพรรณไม้ หลายกลุ่มไม่ได้อยู่ติดกับถนนแต่อยู่ลึกเข้าไป ต่อจากกลุ่มแรกที่อยู่ริมทาง

    จากนั้นขับรถเข้ามาเรื่อยๆ จะมีทางแยกเข้าชมสวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี อยู่ด้านขวามือ เป็นไฮไลท์ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุดของภูฝอยลม แต่ตอนนี้เราจะขอตรงเข้าไปในพื้นที่อื่นๆ ก่อน จุดไฮไลท์จะใช้เวลาเดินชมนานเป็นพิเศษดังนั้นไปดูจุดอื่นๆ ก่อนดีกว่าครับ

ฝอยลมสวัสดิการ

    ฝอยลมสวัสดิการ ขับตรงเข้ามาตามถนนเรื่อยๆ ยังไม่เลี้ยวไปทางไหน เข้ามาติดต่อเรื่องที่พักก่อน ซึ่งการติดต่อที่พักตะติดต่อที่เดียวกันที่ร้านสวัสดิการ ด้านหน้าร้านประดับตกแต่งด้วยไม้ดอกหลายชนิดปลูกเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ดูคล้ายสวนสัตว์เป็นที่ดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ที่เข้ามาเที่ยวบนภูฝอยลม

ร้านค้าสวัสดิการภูฝอยลม

    ร้านค้าสวัสดิการภูฝอยลม บรรยากาศรอบๆ ฝอยลมสวัสดิการ เป็นร้านอาหารที่น่าเข้าไปนั่งสั่งอาหาร ชมสวนสวยๆ รอบๆ ร้าน เป็นสถานที่สำหรับสั่งอาหารกลางวันและเย็นในกรณีที่ค้างแรมบนภูฝอยลม ร้านสวัสดิการจะปิดครัวเวลา 1 ทุ่มครึ่ง ดังนั้นควรจะสั่งอาหารให้เรียบร้อยเอาไว้ก่อน เดี๋ยวครัวปิดแล้วจะไม่มีข้าวกิน

    หากต้องการติดต่อบ้านพักให้สอบถามรายละเอียดและเข้าชมบ้านหลังต่างๆ ได้ที่ร้านสวัสดิการนี้ ด้านหลังมีอาคารเล็กๆ เป็นสถานที่ติดต่อสำหรับการกางเต็นท์ อุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ มีให้บริการพร้อม

    ลึกเข้าไปทางพิพิธภัณฑ์ล้านปีจะมีร้านค้าเป็นร้านเล็กๆ จำหน่ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ขนม เครื่องดื่มต่างๆ นิดหน่อย

แผนผังสถานที่ต่างๆ

    แผนผังสถานที่ต่างๆ บนภูฝอยลม ในรูปนี้ดูจะเล็กไปหน่อยที่จะเอามาใช้เป็นแผนผังจริงๆ แต่จะให้ดูเพื่อง่ายต่อการอธิบายสถานที่ต่างๆ บนภูฝอยลมเอาแบบง่ายๆ ดังนี้

    เส้นทางหลักภูฝอยลม เป็นเส้นแนวนอนเส้นทึบกว่าใครในแผนผังเป็นถนนเส้นเดียวที่ตรงเข้ามาตั้งแต่ด่านตรวจ ผ่านสวนป่ากลุ่มต่างๆ มายังสวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี จากนั้นจะผ่านอาคารบริการนักท่องเที่ยว ปัจจุบันใช้ร้านสวัสดิการเป็นอาคารบริการนักท่องเที่ยวแทน ติดต่อสอบถามได้ทุกเรื่อง เส้นทึบๆ แนวนอนนี้จะตรงไปสุดที่สำนักงานโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร

    สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ มีทางแยกออกไป ได้แก่พิพิธภัณฑ์ล้านปี พุทธสถานภูฝอยลม ไปทางเดียวกัน

สำนักงานโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร

    สำนักงานโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร จากร้านฝอยลมสวัสดิการขับตรงเข้ามาอีกไม่ไกลจะมีลานจอดรถสุดเส้นทางที่เราจะไปได้ด้วยการขับรถต่อจากนี้ต้องเดินไป บริเวณนี้เป็นสำนักงานโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร ถัดเข้าไปเป็นค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร มีศาลาพักผ่อนชมวิวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ศาลาพักผ่อนค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร

    ศาลาพักผ่อนค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร จากสำนักงานเดินตรงเข้ามาจะมองเห็นศาลาอยู่เรียงรายตามขอบผา เป็นอันสุดทางเดินที่ราบเรียบเพียงเท่านี้ หากต้องการเดินศึกษาธรรมชาติบนเส้นทางที่เรียกกันว่า ดงตะวันดับ เป็นเส้นทางที่มีความลาดชันพอสมควร จะได้เห็นสภาพป่าดงดิบเบญจพรรณ และป่าทุ่งหญ้า พบกับบทบาทของผู้ย่อยสลาย ผู้อิงอาศัย ปรสิต ไม้พื้นล่าง และบ่อน้ำซับ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร

    ปัจจุบัน (มกราคม 2555) เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สร้างเป็นลักษณะระเบียงยื่นออกไปจากหน้าผาได้ชำรุดเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้ เจ้าหน้าที่กำลังซ่อมอย่างเร่งด่วนเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง ธันวาคม 2554 เนื่องจากการจัดงานเทศกาลทิวลิปบานบนภูฝอยลม

จุดชมวิวภูฝอยลม

    จุดชมวิวภูฝอยลม วิวทิวทัศน์ที่เราได้เห็นผืนป่าเขียวขจีกว้างสุดสายตาจากภูฝอยลมจะมองไปเห็นถึงตัวเมืองอุดรธานีเลยทีเดียว


    สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะสามารถขับรถมาจอดแล้วเดินชมสวน หรือจะทานอาหารก็มีร้านสวัสดิการบริการ มีศาลาให้นั่งพักผ่อนนอกสวน

    สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี ในวันที่เดินทางไปบันทึกภาพ (ครั้งแรก) ช่วงเดือนกรกฎาคม สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกกระเจียวทั้งสีขาวและสีชมพู ในช่วงเดือนธันวาคม ก็จะมีดอกทิวลิปบานให้ได้ชมกันในงานวันดอกทิวลิปบานที่ภูฝอยลม ส่วนช่วงอื่นๆ เราก็จะได้พบกับไม้ดอกอีกหลายชนิดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปลูกให้เราได้ชมไม่เบื่อ

    ความเป็นมาสวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี จากการที่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยและสนพระทัยการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และสัตว์ป่าของเมืองไทย จนกระทั่งมีโครงการต่างๆ ด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชไม้ป่าของเมืองไทยขึ้นหลายโครงการ เพื่อเป็นการตอบสนองพระราชปณิธานขององค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดสร้างสวนรวมไม้ป่าขึ้นใน ๔ ภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนม์ ๖๐ พรรษา ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๕ สำหรับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานป่าไม้เขตอุดรธานี(เดิม) ได้คัดเลือกพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพันดอน-ปะโค พื้นที่ตำบลทับกุง อำเภอหนองแสงเป็นพื้นที่ดำเนินการซึ่งเดิมเคยถูกราษฎรบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง เข้าไปอาศัยทำกินจนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรมสมควรได้รับการปรับปรุงใหม่อนุรักษ์เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่สมบูรณ์ดังเดิม

สวนดอกกระเจียวภูฝอยลม

    สวนดอกกระเจียวภูฝอยลม เมื่อหมดฤดูกาลของดอกกระเจียวแล้วทางอุทยานจะปลูกดอกไม้อื่นสลับกันไปจึงทำให้เป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีโดยมีความรู้สึกเหมือนกับทัศนียภาพเปลี่ยนไป ดูไม่เบื่อกันเลยทีเดียว

สถานที่พักผ่อน

    สถานที่พักผ่อน นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ภูฝอยลม ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัว สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี เป็นสถานที่แรกๆ ที่คนจะเข้ามาชมความสวยงามและพักผ่อนตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางมากๆ แต่ในเวลากลางวันจะแดดร้อน ส่วนหนึ่งในบริเวณสวนมีจุดสำหรับนักพักผ่อนหลบแดด เป็นต้นไม้ใหญ่หลายต้นมีลานกว้างๆ ให้นั่งได้อย่างสบาย ร่มเงาของต้นไม้ทำให้ไม่ร้อนแดด แต่ที่ดีกว่านั้นคือกล้วยไม้หลากสีหลายพันธุ์ที่อยู่บริเวณโคนต้นไม้ ช่วยเพพิ่มสีสันระหว่างการนั่งหลบแดดของเราได้เป็นอย่างดี หากมีเสื่อมาปูเห็นทีว่าจะหลับได้อย่างรวดเร็ว

กังหันลมภูฝอยลม

    กังหันลมภูฝอยลม ในระหว่างเทศกาลงานทิวลิปบานที่ภูฝอยลม มีการสร้างกังหันลมเพิ่มสีสันเข้าไปในสวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี แม้ว่างานทิวลิปบานได้ผ่านพ้นไปแล้ว กังหันลมนี้ก็ยังคงตั้งอยู่ให้เราได้เอามาใช้เป็นฉากสวยๆ ในการถ่ายรูปต่อไป

บ้านพักบนภูฝอยลม

    บ้านพักบนภูฝอยลม ชมสถานที่ท่องเที่ยวมาแล้วบางส่วน คราวนี้ลองมาดูที่พักที่มีอยู่บนภูฝอยลมกันบ้างครับ ยกตัวอย่าง เพียงหลังเดียวที่อยู่ริมผา หันไปด้านทิศตะวันออก เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของภูฝอยลม บ้านพัก 2 หลังนี้อยู่ไม่ไกลจากสวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี มากนัก หลังหนึ่งชื่อ จันทร์ผา อีกหลังหนึ่งชื่อ สนมังกร ด้านหลังมีระเบียงชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้เหมือนกัน แต่ขนาดห้องและจำนวนห้องพักแตกต่างกัน สนใจบ้านพักบนภูฝอยลมให้ลองเข้าไปดูที่ http://www.phufoilom.com/stayhome.html

ร้านอาหารใกล้สวนรวมพรรณไม้

    ร้านอาหารใกล้สวนรวมพรรณไม้  มีร้านค้าอยู่ด้านหนึ่งของ สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี มีโต๊ะรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากทั้งในร้านและกลางแจ้ง เหมาะสำหรับพักเหนื่อยหลังจากเดินชมสวนที่กว้างใหญ่แห่งนี้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภูฝอยลม

    ภูฝอยลม บริเวณนี้เป็นพื้นที่เริ่มต้นเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีอยู่หลายเส้นทางบนภูฝอยลม ด้านหนึ่งเป็นสนามขนาดใหญ่มีการเล่นกีฬาเช่นฟุตบอล จากจุดนี้ไปสามารถเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาเหยียบโลก เป็นเส้นทางที่มีความลาดชันสูงมาก มีป่าทุ่งหญ้าและป่าเบญจพรรณ ผ่านจุดสูงสุดของเทือกเขานี้ และได้เห็นแหล่งต้นน้ำลำธารต่างๆ ระยะทาง 2 กิโลเมตร

    นอกเหนือจากการเดินศึกษาธรรมชาติ ตรงนี้ยังมีบันไดเดินลงไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลมด้วย

พุทธสถานภูฝอยลม

    พุทธสถานภูฝอยลม จากสวนหย่อมข้างสนามกีฬาในภาพบน ก่อนที่จะเดินลงไปยังพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม ให้ขับรถตรงไปตามถนนอีกไม่ไกล (ประมาณ 200 เมตร) จะเห็นป้ายบอกทางขึ้นพุทธสถานภูฝอยลม อยู่ข้างอาคารค่ายเยาวชน 2 มองตามป้ายไปก็จะเห็นบันไดสำหรับเดินขึ้นไป เราก็ต้องจอดรถใกล้ๆ อาคารค่ายเยาวชน แล้วเริ่มต้นออกเดินทาง

    บันไดเดินขึ้นมาพุทธสถานภูฝอยลม เห็นทีแรกนึกว่าจะไม่ยาวเท่าไหร่ เดินไม่นานไม่ทันเหนื่อยก็น่าจะถึง พอเอาเข้าจริงๆ หอบตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านบันไดนั้นมาได้ก็มานั่งพักตรงบันไดหน้าพุทธสถานแห่งนี้ ก่อนที่จะกราบพระพุทธรูปแล้วเดินต่อไป

พุทธสถานภูฝอยลม

    พุทธสถานภูฝอยลม ภายในศาลาลักษณะแปดเหลี่ยม มีบานหน้าต่างกระจกใสล้อมรอบ มีประตูอยู่ด้านหน้าที่เปิดให้เข้า-ออกได้ ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป รอบพุทธสถานเป็นต้นไม้ล้อมรอบ กลับจากพุทธสถานจะเดินลงบันไดเดิมที่เดินขึ้นมาก็ได้ หรือจะเลือกเดินไปตามทางแยกมีป้ายบอกไว้ว่าเป็นทางไปจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง

    จากหน้าพุทธสถานภูฝอยลมตรงไปตามทางประมาณ 200 เมตรจะมีลานหินกว้างใหญ่ ที่น่าจะเป็นจุดชมวิวภูฝอยลมอีกแห่งหนึ่งตามที่ป้ายเขียนไว้ แต่กาลเวลาผ่านไปต้นไม้หลายต้นเติบโตขึ้นจนปิดบังทัศนียภาพไปหมด

    จากลานหินที่เดาว่าเป็นจุดชมวิว มีทางเดินลงเขาที่ค่อนข้างชันเป็นทางที่ต้องปีนป่ายหินบางช่วงเพื่อเดินลงเชิงเขาไม่ต้องย้อนกลับไปทางพุทธสถานที่เพิ่งเดินผ่านมา

จำลองมนุษย์ถ้ำภูฝอยลม

    จำลองมนุษย์ถ้ำภูฝอยลม ในระหว่างที่ป่ายปีนก้อนหินมุ่งหน้าลงเชิงเขากลับไปยังอาคารค่ายเยาวชน ก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะมีความรู้สึกว่ามองเห็นอะไรบางอย่างคล้ายคนแต่ตัวเป็นสีเขียวเข้มอยู่ใต้หลืบหิน พอมองดูให้ดีจึงได้รู้ว่าเป็นรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองการดำรงชีวิตของมนุษย์ถ้ำในอดีตที่ผ่านมา

    จากจุดแสดงหุ่นจำลองมนุษย์ถ้ำ มีทางเดินลงไปเรื่อยๆ จนถึงเชิงเขา มีรูปปั้นสัตว์ต่างๆ มากมาย เป็นบริเวณที่เรียกว่าพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อให้เด็กๆ มาชมกัน รูปปั้นสัตว์เหล่านี้กระจายอยู่ในพื้นที่ป่าโปร่ง เหมือนสวนสัตว์เปิดเลยครับ

พิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม

    พิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม ออกมาจากป่าที่มีรูปปั้นสัตว์มากมายหลายชนิดจะเห็นทางแยก ซ้าย กับ ขวา ก็พอจะเดาได้ว่าหากเลี้ยวขวาจะเป็นทางกลับไปยังอาคารค่ายเยาวชน 2 ที่จอดรถเอาไว้ ก็เลยเลี้ยวซ้ายดีกว่าเพราะเห็นอาคารรูปทรงกลมเด่นตระหง่านอยู่ อาคารหลังนี้ก็คือพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม

ฝอยลม

    ฝอยลม ภาพของฝอยลมนี้แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม เพื่อเล่าที่มาของชื่อภูฝอยลม ภูฝอยลมแห่งนี้มีตำนานว่า

    ภูฝอยลม เป็นยอดภูเขาสูงที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพันดอน – ปะโค อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 600 เมตร มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี และมีความชุ่มชื้นสูงมาก และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในอดีต ทำให้เกิด Lichen (รา +สาหร่าย) ชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Frutiose เรียกว่า ฝอยลม (Usnea abissinica Mot.)มีลักษณะเป็นเส้นฝอยสีเขียวปนเทา เกาะอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้เจริญงอกงามกระจายอยู่เต็มภูเขา จนได้รับการขนานนามว่า ภูฝอยลม ต่อมาได้มีราษฎรเข้ามาจับจองบุกรุกพื้นที่เพื่อจัดตั้งหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน จึงทำให้สภาพป่าเริ่มเสื่อมโทรม ทำให้จำนวนฝอยลมลดน้อยลง จนแทบจะสูญพันธุ์ และในระหว่างปี 2528 – 2532 ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในขณะนั้น (นายสายสิทธิ์ พรแก้ว และ นายจรวย ยิ่งสวัสดิ์) ได้เคลื่อนย้ายราษฎรเหล่านั้นออกจากพื้นที่ป่าโดยจัดให้อยู่ในพื้นที่ใหม่ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ

    ปี 2533 สำนักงานป่าไม้เขตอุดรธานี โดย นายมานิตย์ เอี่ยมสรรพางค์ ป่าไม้เขตอุดรธานี และ นายสนั่น ศิริวัฒนกาญจน์ ผู้ช่วยป่าไม้เขตอุดรธานี ในขณะนั้น ได้ริเริ่ม โครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร ทำการฝึกอบรมเยาวชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้ชื่อย่อว่า ย.พ.พ. เพื่อปลูกฝังทัศนคติ ให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจและเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

โครงกระดูกหัวไดโนเสาร์

    โครงกระดูกหัวไดโนเสาร์ เป็นซากชิ้นส่วนของไดโนเสาร์ชิ้นใหญ่ที่สุดที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ด้านในห้องแสดง เห็นแล้วประทับใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าของเหล่านี้จะมีให้ชมที่ภูฝอยลมด้วย

ฟอสซิลไดโนเสาร์ภูฝอยลม

    ฟอสซิลไดโนเสาร์ภูฝอยลม ชิ้นส่วนของหินที่มีร่องรอยของซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน นำมาเรียงให้ชมกันในตู้กระจกโดยมีการแบ่งหมวดหมู่ประเภทของไดโนเสาร์พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ชนิดนั้นๆ ส่วนใหญ่จะเห็นรูปโครงกระดูกติดอยู่บนหินรูปร่างต่างกันไป ตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง สัตว์บกบ้าง สัตว์น้ำบ้าง หรือจะเป็นไข่ไดโนเสาร์ก็มีให้ชมกันเยอะแยะมากมายเลยครับ เห็นแบบนี้แล้วทำให้นึกถึงหนังฝรั่งแนววิทยาศาสตร์ที่มีการค้นพบวิธีการสร้างชีวิตสัตว์ล้านปีมาจากฟอสซิล น่าสนใจมากว่าในใข่ใบนี้มีไดโนเสาร์ชนิดใดหลับอยู่ข้างใน

ชมดอกไม้สวยภูฝอยลม

    ชมดอกไม้สวยภูฝอยลม หลังจากที่ได้เข้าไปศึกษาโลกดึกดำบรรพ์กันมาพอสมควรได้เห็นฟอสซิลไดโนเสาร์ที่แสดงให้ชมกันมากมายหลายชนิด ก่อนที่จะกลับลงจากภูฝอยลม ก็ขอแวะเก็บภาพดอกไม้ที่สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี ต่ออีกหน่อยครับถือว่าเก็บตกให้พอใจกันไปเลย

กุหลาบสวยภูฝอยลม

    กุหลาบสวยภูฝอยลม นอกเหนือไปจากสวนไม้ดอกบานสะพรั่งใกล้ๆ กับแปลงดอกไม้ที่ปลูกเป็นคำว่า สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี แล้ว ลองเดินไปชมอีกด้านหนึ่งใกล้ๆ บ้านจันทร์ผา จะเห็นมีกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ มีสีและขนาดแตกต่างกันไป อยู่เป็นแปลงใหญ่ สำหรับผู้ชื่นชอบกุหลาบไม่ควรพลาด

พระพุทธชัยมงคลมหาชนอภิปูชนีย์

    พระพุทธชัยมงคลมหาชนอภิปูชนีย์ กลับลงมาจากภูฝอยลม มุ่งหน้าไปตัวเมืองอุตรธานี ตามเส้นทางหนองแสงที่เดินทางเข้ามา ผ่านวัดภูทองเทพนิมิต ที่เราเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานเด่นตระหง่านสีขาวทั้งองค์บนยอดเขา แน่นอนว่าขากลับเราตั้งใจจะแวะไหว้พระทำบุญกันอยู่แล้ว ก็ขับขึ้นเขามาไม่ชันมากนัก ทางขึ้นสบายครับ มาจอดที่ด้านหลังขององค์พระ เดินขึ้นมาไหว้พระได้แล้วครับ มีหลายส่วนที่กำลังก่อสร้าง เพราะงานนี้ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ การมาที่วัดภูทองเทพนิมิตของเราในวันนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกเกือบ 2 ปี การก่อสร้างฐานพระพุทธรูปยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ เราได้พบกับหลวงพ่อที่จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ท่านเล่าให้ฟังว่า การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงเมื่อมีฝนตกหนักในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา

ในฐานพระพุทธชัยมงคลมหาชนอภิปูชนีย์

    ในฐานพระพุทธชัยมงคลมหาชนอภิปูชนีย์ หลังจากไหว้พระบนฐานที่ยกสูงขึ้นไปถึง 3 ชั้น คราวนี้เราเข้ามาชมภายในพบว่ามีภาพจิตรกรรมที่สวยงามสะดุดตาอยู่บนเพดานชั้น 2 แต่สามารถมองทะลุขึ้นไปได้จากชั้นที่ 1 เพราะการสร้างเพดานตรงกลางของชั้นแรกนั้น เป็นแบบปล่อยว่างทะลุขึ้นไป ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ตรงกลาง

    ภาพจิตรกรรมที่เห็นในภาพบน เวลาเข้าไปถ่ายรูปต้องแหงนถ่ายภาพที่ออกมาจริงๆ แล้วเป็นภาพกลับหัวเพราะเรายืนอยู่ขอบนอก แล้วถ่ายเข้าไปจุดศูนย์กลางของอาคาร แต่เพื่อให้ชมกันแบบไม่ลำบากมากเกินไปผมเลยกลับภาพให้หัวตั้งขึ้นตามเดิม

    สิ่งที่โดดเด่นอีกสิ่งหนึ่งคือรูปเทพพนม เป็นงานปูนปั้น อยู่รอบๆ กำแพงลานประทักษินที่ฐานพระองค์ใหญ่ ทัวร์ออนไทยก็ขอถือโอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนกันไปทำบุญที่วัดภูทองเทพนิมิต อ.หนองแสง อุดรธานี




1 ความคิดเห็น:

  1. เด้กดื้อ (ขี้รถสองแถวขึ้นภูฝอยลม)14 ตุลาคม 2557 เวลา 02:50

    ตอนเป็นนักเรียน ก็ไป ย. พ. พ. อบรมอยู่ที่ภูฝอยลมค่ะ ปี 2541 เดี่ยวนี้ภูฝอยลมเปลี่ยนไปมาก พี่ๆ ที่อยู่นั้นเก่งมากๆเลยที่สามาถรักษาป่าที่ภูฝอยลมไว้สวยงามเหมือนเดิม สู้ๆนะค่ะ คิดถึงวันวานที่อยู่ที่นั้น

    ตอบลบ